Customer Reviews

เข็มทิศชีวิต (ฉบับของขวัญ)
5
โดย: มยุรินทร์ วันที่เขียนรีวิว: 09 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เข็มทิศชีวิต – อีกหนึ่งผลงานของนักเขียนชื่อดัง คุณฐิตินาถ ณ พัทลุง เล่มนี้ตัดสินใจซื้อหลังจากที่ได้อ่าน
เข็มทิศจิตใต้สำนึกค่ะ ในตอนแรกคิดว่าเนื้อหาข้างในน่าจะสอดคล้องต่อเนื่องกัน เพราะชื่อหนังสือก็ดูจะไปในทิศทางเดียวกัน
แต่พอซื้อเล่มนี้มา เดินเข้าไปร้านหนังสือใหม่อีกครั้งก็พบว่า มีหนังสือเล่มอื่นอีกหลายเล่มที่นำหน้าด้วย คำว่า “ เข็มทิศ ” เหมือนกันเต็มไปหมด
แอบตกใจตอนแรกคิดว่าคนละผู้เขียนพอดูทุกเล่มแล้วก็พบว่า นี่คงเป็นคอนเซปต์ของผู้เขียนแน่ๆเลย ที่ใช้คำว่า “ เข็มทิศ ” ตั้งต้นไว้ในหนังสือทุกเรื่อง
หากพูดโดยกว้างๆในความคิดส่วนตัวของเราเอง ผู้เขียนหนังสืออาจจะกำลังบอกเราว่า ชีวิตคนเรามีทางเลือกเดินหลายทาง
แต่ไม่ว่าจะเป็นทางใดก็ต้องมีเข็มทิศไว้คอยนำทางเสมอ เพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทางได้เร็วขึ้น(ลองนึกถึงเวลาเดินป่าน่าจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นนะคะ)
แล้วก็เป็นไปตามคาดค่ะ หนังสือของคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ เพราะหลังจากที่ซื้อหนังสือ(เข็มทิศชีวิต)เล่มนี้มาอ่าน
พบว่านี่ไม่ใช่ผลงานธรรมดาๆอย่างที่ได้อ่านมาจากเล่มก่อน ค่ะ เนื่องด้วยหนังสือเล่มนี้ ใช้การเล่าเรื่องราวผ่านประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเอง
โดยสื่อผ่านทางสถานการณ์ตัวอย่างที่หยิบหยกขึ้นมาให้เรามองเห็นภาพได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
หากดูเผินๆ ถ้าได้อ่านเพียงคำนิยมของหนังสือเล่มนี้ เราคงคิดว่า มันก็เหมือนหนังสือเล่าเรื่องราวชีวิตตัวเองทั่วไปนั่นล่ะไม่น่าจะแตกต่างอะไรกับหนังสือเล่มอื่นมากนัก
แต่ไม่จริงเลยค่ะ หากคุณได้ลองอ่านจริงๆ เล่มนี้ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด
อย่างเช่น บทความที่สอง เรื่อง “ คุณยายเจ้าปัญญา ” ผู้เขียนได้ยกสถานการณ์ปัญหาสังคมในปัจจุบัน
หลังจากที่หลานๆของคุณยายกลับมาจากการทำงาน ก็ต้องออกไปเที่ยวห้าง เที่ยวผับ เพื่อหาความสุขใส่ตัว เป็นแบบนี้ทุกวัน
จนกระทั่งกลางดึกวันหนึ่ง คุณยายทำเข็มหาย ตรงหน้าเตียงในห้อง แต่ทว่าคุณยายกลับเดินมาหาที่ ใต้เสาไฟฟ้า
โดยที่หลานสองคนก็งงว่าทำไม ถึงต้องมาหาที่นี่ ทำไมไม่ไปหา ณ จุดที่มันหาย คุณยายจึงตอบกลับไปว่า
“ ทำไมจะไม่ได้ล่ะหลานรัก ก็ทีหลานน่ะ ทำความสุขหล่นหายไปจากใจ ยังไปเที่ยวตามผับ ตามบาร์ ตามห้างได้ทุกวัน ”
ซึ่งในตอนนี้เหมือนผู้เขียนน่าจะสื่อถึง ความต้องการ การดูแลเอาใจใส่ของคุณยาย จากหลานๆ (ซึ่งในปัจจุบันแทบจะมองข้ามสิ่งนี้ไปเลย)
เหมือนที่ตอนเรายังเด็ก ท่านก็ดูแลเรา มอบความสุขให้กับเราตลอดโดยไม่เคยอ้างเลยว่า เหนื่อยต้องไปเที่ยวถึงจะหาย
เพราะความจริงความสุขที่แท้จริงมันคือการได้อยู่กับครอบครัวต่างหาก
ไม่ใช่การออกไปเสพสุขข้างนอก สุขที่อยู่กับเราไม่นาน เพียงหมดเวลากลับมาถึงบ้านความสุขนั้นก็จางหายไป
เข็มทิศจิตใต้สำนึก
5
โดย: มยุรินทร์ วันที่เขียนรีวิว: 09 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เข็มทิศจิตใต้สำนึก – หนังสือเล่มนี้ได้เป็นของขวัญให้ตัวเองก่อนจะเข้ามหาลัยค่ะ เพราะตอนนั้นประสบปัญหาเกี่ยวกับการค้นหาตัวเอง
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็วางเป้าหมายไว้แน่นอนแล้วว่าจะเรียนทางด้านไหนต่อ แต่พอมาถึงจุดๆนึงกลับรู้สึกว่า
“ จะทำอย่างนี้ดีไหมนะ? แบบนี้ก็ไหวอยู่นะ ทำไมไม่ไปทางนี้ละ? ทางนี้ก็พอได้อยู่นะ ”
ความคิดก็เริ่มบิดเบือนจากความฝันที่ตั้งไว้ตอนต้นเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรก็ดูไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นแบบนี้
และก็เป็นความบังเอิญจริงๆที่เพื่อนคนนึงเคยประสบปัญหานี้เหมือนกัน จึงแนะนำหนังสือเล่มนี้ให้ค่ะ บอกว่า
“ ที่เราเลือกและเข้าใจตัวเองได้ เพราะหนังสือเล่มนี้ เข็มทิศจิตใต้สำนึกนี่แหละ ลองอ่านดูน่าจะพอเข้าอะไรที่เกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น รวมถึงอนาคต ความฝัน ที่กำลังตามหาด้วย ”
ตอนแรกก็ยังไม่เชื่อหรอกค่ะ เพราะส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือแนวจิตวิทยาแบบนี้สักเท่าไหร่
แต่ตอนนั้นด้วยความที่หาทางออกของอนาคตตัวเองยากจริงๆ เลยลองซื้อมาเป็นของขวัญให้ตัวเองดูค่ะ พอลองได้อ่านก็พบว่าไม่ผิดหวังเลยค่ะ
คุ้มกับเงินและเวลาอ่านที่เสียไปด้วยซ้ำ เพราะหนังสือเล่มนี้ “ เข็มทิศใต้จิตสำนึก ” เป็นหนังสือที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ กำลังค้นหาตัวเอง
ขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่กล้าที่จะตัดสินใจอะไรหลายๆอย่างในชีวิต กลัวการเริ่มต้นกับสิ่งใหม่
หรือแม้กระทั่งกำลังตกอยู่ในภาวะสับสนกับทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาหรือผ่านไป โดยภาพรวมของหนังสือจะแบ่งเรื่องราวเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆด้วยกัน
และในทุกๆเรื่องราวและทุกส่วนของเนื้อเรื่องในหนังสือเล่มนี้จะถูกบรรยายผ่านภาพจินตนาการหรือเหตุการณ์ตอนยังเยาว์วัย
ทำให้เวลาที่เราหยิบมาอ่านจะนึกถึงความทรงจำและความสนุกสนานของวันวานได้อยู่เนืองๆ
จัดว่าเป็นหนังสือที่สามารถหยิบมาอ่านได้ทุกวัน ทุกเวลาและเหมาะสมกับทุกเพศทุกวัยจริงๆค่ะ
ไม่เพียงเท่านี้ หากได้ลองอ่านเพียงบางช่วงบางตอนของหนังสือก่อนจะตัดสินใจอ่านทั้งเล่ม
ก็สามารถเข้าใจได้เลยว่าในเรื่องหรือตอนที่เรากำลังอ่านนั้นสื่อถึงอะไรและต้องการจะบอกอะไรกับเรา โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าหนังสือเล่มนี้มีความพิเศษอยู่ตรงนี้นี่แหละค่ะ
เพราะแม้ว่าเนื้อจะเรื่องถูกแบ่งส่วนเป็นเรื่องใหญ่ๆ 3 ส่วนและประกอบด้วยเรื่องย่อยๆในแต่ละส่วนใหญ่ๆก็จริงแต่ถ้าหากเปิดผ่านๆลองอ่านข้ามเรื่องบ้าง ข้ามตอนบ้าง
ก็ยังสามารถเข้าใจได้อยู่ว่าผู้เขียนจะสื่ออะไรในตอนหรือเรื่องนั้นๆ เพราะเนื้อหาภายในแต่ละเรื่องไม่ค่อยสอดคล้องกัน
เหมือนเป็นการหยิบจับความทรงจำทั้งคำพูดและรูปภาพมาประกอบๆกันให้เป็นหนังสือเล่มหนึ่ง จึงทำให้รู้สึกไม่น่าเบื่อเวลาอ่านค่ะ
www.batorastore.com © 2024